ลำไส้แปรปรวน โรคยอดฮิตชีวิตคนทำงาน



















ภาวะลำไส้แปรปรวน หรือ ไอบีเอส (IBS, Irritable bowel syndrome) เป็นภาวะเรื้อรังที่มีลักษณะเฉพาะคืออาการรู้สึกไม่สบายท้อง ปวดท้องเป็นๆหายๆร่วมกับขับถ่ายผิดปกติ ทั้งท้องผูก ท้องเสียหรือทั้ง 2 อย่างร่วมกัน และมีอาการดีขึ้นหลังถ่ายอุจจาระ อาจมีอาการร่วมอื่นๆเช่น ท้องอืด แน่นท้อง สำหรับประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยอยู่ถึง 15.2 %  พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี โดยเป็นเท่าๆกันทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยเป็นภาวะที่ถึงแม้อันตรายไม่มากนัก แต่ส่งผลกับจิตใจและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วย ประสิทธิภาพในการทำงานเป็นอย่างมาก

การวินิจฉัยลำไส้แปรปรวน

ปัจจุบันในการวินิจฉัยภาวะลำไส้แปรปรวนประกอบด้วยอาการปวด หรือไม่สุขสบายท้องเป็นๆหายๆเรื้อรังอย่างน้อย 6 เดือนร่วมกับอาการเหล่านี้ 2ใน3 ข้อ ได้แก่ 1)อาการทุเลาลงหลังถ่ายอุจจาระ 2)มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของการถ่ายอุจจาระเปลี่ยนไป 3)มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของอุจจาระ โดยจะต้องไม่พบสัญญาณอันตรายอื่นๆเช่น ประวัติมะเร็งลำไส้หรือประวัติโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังในครอบครัว มีถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ปวดท้องหรือท้องเสียช่วงกลางคืน ซีดจากการขาดธาตุเหล็ก น้ำหนักลด เป็นต้น




อาหารอะไรบ้างที่กระตุ้นอาการของผู้ป่วยลำไส้แปรปรวน
- นมวัว นมแพะ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์
- สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
- แป้งสาลีรวมถึงอาหารและขนมที่มีแป้งสาลีเป็นองค์ประกอบ
- ผลไม้บางชนิดเช่น แอปเปิ้ล มะม่วงสุก แตงโม ลูกพลับ ลูกพรุน ลูกแพร์ ลูกพีช ลิ้นจี่ เชอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เชอร์รี่ อโวคาโด เป็นต้น
        - ผักบางชนิดเช่น หน่อไม้ฝรั่ง บีทรูท บล็อกเคอร์รี่ กะหล่ำปลี กระเทียม ต้นหอม หัวหอม ถั่วชนิดต่างๆ เห็ด เป็นต้น

แนวทางในการดูแลผู้ป่วยลำไส้แปรปรวน 
      - ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
        - ดูแลร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพจิตให้ดี 
      - สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูกแนะนำการรับประทานอาหารเช้าให้ได้ทุกวันร่วมเดินย่อยอาหารจะทำให้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำและควรเข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกอยากถ่ายทันทีรวมถึงไม่กลั้นถ่ายอุจจาระ โดยเมื่ออาหารลงไปถึงกระเพาะจะส่งคำสั่งไปยังระบบประสาทที่ไปเลี้ยงลำไส้ใหญ่ทำให้รู้สึกอยากถ่ายอุจจาร
     - หมั่นสังเกต อาหาร และเครื่องดื่มต่างๆที่กระตุ้นให้เกิดอาการหรือทำให้อาการรุนแรงขึ้น เพื่อการหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณ 
       - รับประทานอาหารแต่ละมื้อให้น้อยลงและไม่ทานอาหารรสจั
     - ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว 
         - รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ 
       - อาการที่ต้องรีบเข้ามาพบแพทย์เนื่องจากอาจไม่ใช่ภาวะลำไส้แปรปรวนได้แก่ มีไข้สูง อุจจาระเป็นเลือดหรือเป็นมูกเลือด ซีด ปวดท้องมากผิดปกติ หรือลักษณะปวดท้องผิดไปจากที่เคยเป็น น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ






Previous
Next Post »