โรคกรดไหลย้อนหรือ โรคเกิร์ด (Gastroesophageal reflux disease – GERD) หมายถึง ภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไประคาย เคืองในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก (Typical GERD)หรือระคายเคืองลำคอ และกล่องเสียงจนทำให้เกิดอาการอักเสบ (Atypical GERD) เป็นโรคที่พบได้ในคนทุกอายุ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยจะพบอัตราการเกิดสูงขึ้นในคนที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
การทำงานของระบบทางเดินอาหารส่วนต้นแบบปกติ
หลังจากรับประทานอาหารทางปาก
อาหารจะถูกกลืนเข้าสู่หลอดอาหาร และอาหารจะถูกบีบไล่ไปยังกระเพาะอาหาร ผ่านทางหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหาร
(Lower esophagiel
sphincter – LES) ซึ่งทำหน้าที่หดรัดตัวเพื่อปิดกั้นไม่ให้กรด
อาหารหรือน้ำย่อยไหลย้อนกลับไปยังหลอดอาหาร เมื่ออาหารอยู่ในกระเพาะจะมีกรดออกมาจำนวนมากออกมาย่อยอาหารและกระเพาะอาหารก็จะบีบไล่อาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กต่อไป
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน
- - เกิดจากภาวะหย่อนสมรรถภาพของหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหาร
(Lower esophagiel
sphincter – LES) หรือจากการได้รับสารบางอย่างที่ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดในหลอดอาหารคลายตัว
เช่น แอลกอฮอล์ อาหารมัน
ทำให้กรด น้ำย่อยทำให้กล้ามเนื้อหูรูดส่วนนี้ปิดไม่สนิท
กรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหารจึงย้อนกลับขึ้นไปที่หลอดอาหารและลำคอได้ง่าย
-
การบีบตัวของหลอดอาหารผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถบีบไล่กรดหรือน้ำย่อยที่ค้างอยู่ในหลอดอาหารให้ลงไปที่กระเพาะอาหารได้
- กระเพาะอาหารบีบตัวลดลงทำให้บีบไล่กรด
น้ำย่อยรวมถึงอาหารลงไปที่ลำไส้เล็กได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เช่น จากความเสื่อมของกระเพาะอาหาร, จากการอักเสบของกระเพาะอาหาร, จากโรคบางอย่างที่ทำให้เส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกระเพาะเสื่อมลงเช่นเบาหวาน,
จากผลข้างเคียงของยาบางชนิด (เช่น ยาทางจิตประสาท) ทำให้กรด
น้ำย่อยและอาหารเกิดการย้อนกลับขึ้นไปที่หลอดอาหาร ลำคอได้
- ภาวะที่มีความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้นทำให้มีการกดเบียดกระเพาะอาหารแล้วจึงทำให้กรด
น้ำย่อย อาหารย้อนกลับขึ้นไปที่หลอดอาหาร ลำคอได้เช่น ภาวะอ้วนลงพุง การไอเรื้อรัง การตั้งครรภ์ การรับประทานอาหารปริมาณมากในแต่ละมื้อ
- - อื่นๆเช่นการมีไส้เลื่อนกะบังลมขนาดใหญ่ กระเพาะมีกรดหรือสารคัดหลั่งมากขึ้น เป็นต้น
อาการของโรคกรดไหลย้อน
- - อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก และลิ้นปี่ (heart burn) ซึ่งเป็นอาการที่สัมพันธ์กับกรดไหลย้อยอย่างชัดเจนหรือที่เรียกว่า
Typical GERD โดยอาการดังกล่าวจำเป็นต้องแยกจาก โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
(Myocardial infarction) ซึ่งเป็นภาวะที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ออกไปก่อนเสมอโดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเช่นอายุมาก
มีโรคประจำตัวเช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดสูง
โดยอาการของโรคหัวใจมักมีเจ็บหน้าอกตรงกลางเหมือนถูกกดทับอาจมีร้าวไปที่กรามหรือแขนซ้ายได้บ้าง
มีเหงื่อแตกหรือใจสั่นร่วมด้วย
- อาการขมคอ เปรี้ยวปาก เจ็บคอเรื้อรัง
ไอเรื้อรัง โรคหอบหืดกำเริบหรือมีเสียงแหบหลังตื่นนอนซึ่งเกิดจากการอักเสบของลำคอและกล่องเสียงจากน้ำย่อย
กรดหรืออาหารที่ย้อนกลับขึ้นมา โดยจะเรียกอาการดังกล่าวว่า Atypical GERD
- อาการกลืนติดหรือกลืนลำบากซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการมีผังผืด
(Esophageal stricture) หรือมะเร็งที่สัมพันธ์กับการอักเสบของหลอดอาหารบ่อยๆมาเป็นเวลานานโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการกลืนอาหารลำบาก
เจ็บเวลากลืนอาหาร อาเจียนบ่อย น้ำหนักตัวลดลงร่วมด้วย
คำแนะนำแนวทางการปฎิบัติตัว
- ลดน้ำหนักและออกกำลังกาย
- หลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภคอาหารมัน
อาหารรสเผ็ดจัดหรือเปรี้ยวจัด แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ช็อกโกแลต น้ำอัดลม การสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในปริมาณครั้งละมาก
ๆให้เปลี่ยนมารับประทานอาหารในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้งแทน รับประทานอาหาร
- หลีกเลี่ยงการนอนภายใน 3 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเสร็จ
- ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือรัดเข็มขัดจนแน่นเกินไป
- นอนหนุนศีรษะให้สูง
- อาการที่ควรรีบมาพบแพทย์ให้เร็วได้แก่
ถ่ายอุจจาระมีเลือดปนหรือมีสีดำยางมะตอย กลืนแล้วเจ็บ กลืนติดหรือกลืนลำบาก
ไอมากหรือไอมีเลือดปน อ่อนเพลีย ซีด และน้ำหนักตัวลดอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีสาเหตุ
Sign up here with your email



ConversionConversion EmoticonEmoticon